โครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ส่วนทดแทนตอน N1 เริ่มต้นที่จุดตัดระหว่างทางพิเศษศรีรัช ถนนงามวงศ์วาน มุ่งหน้าตามแนวถนนงามวงศ์วาน ลอดผ่านแยกพงษ์เพชร ถนนวิภาวดีรังสิต แยกเกษตร วิ่งเข้าถนนประเสริฐมนูกิจ จนเชื่อมต่อกับช่วง N2 โครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ รวมระยะทาง 6.7 กิโลเมตร
ช่วง N2 ศึกษาโครงการเสร็จแล้ว เป็นทางยกระดับตลอดเส้นทาง อยู่ระหว่างเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อขออนุมัติโครงการจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใช้เงินลงทุนกว่า 16,000 ล้านบาท และมีอัตราค่าผ่านทาง 30 บาท
ส่วนช่วง N1 เบื้องต้นกทพ. เลือกแนวทางก่อสร้างเป็นรูปแบบโครงสร้างอุโมงค์ มีระยะทาง 6.5 กิโลเมตร ถือเป็นอุโมงค์ที่มีขนาดใหญ่และลึกที่สุด โดยมีความลึกกว่า 40 เมตร หรือเท่ากับตึกสูงประมาณ 10 ชั้น หากได้รับอนุมัติก่อสร้างจะถือเป็นโครงการทางด่วนใต้ดินเส้นทางแรกของประเทศไทย โดยทั้งโครงการทั้งช่วง N1 และ N2 จะให้เฉพาะรถยนต์ 4 ล้อ ที่ใช้บริการได้ เพราะต้องใช้เสาเข็มฐานรากที่ก่อสร้างเมื่อ 25 ปี บนถนนเกษตร-นวมินทร์ ที่มีอยู่แล้วก่อสร้างต่อ โดยสร้างโครงสร้างยกระดับสูงขึ้นไปอีก จะทำให้โครงการรองรับน้ำหนักได้ไม่มาก”
รูปแบบโครงการ ประกอบด้วย
1.โครงสร้างอุโมงค์แบบ Cut and Cover อยู่บริเวณทางเข้า-ออกอุโมงค์ของโครงการที่จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดโครงการมีลักษณะเป็นอุโมงค์ 2 ชั้น แบ่งเป็นชั้นฝั่งขาออกและชั้นฝั่งขาเข้า ชั้นละ 2 ช่องจราจร มีความกว้างรวม 15.9 เมตร ระยะทางประมาณ 1.75 กิโลเมตร
.
2.โครงสร้างอุโมงค์แบบ Tunnel Boring Machine หรือ TBM เป็นโครงสร้างของแนวสายทางหลักโดยจะมีลักษณะเป็นอุโมงค์ 2 ชั้น เช่นเดียวกับรูปแบบ Cut and Cover มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 16.3 เมตร ระยะทาง 6.31 กิโลเมตร
.
3.โครงสร้างทางยกระดับของโครงการโครงสร้างทางยกระดับที่ต่อจากอุโมงค์ทางลอดใต้ดิน (Cut and Cover) ยกระดับขึ้นสู่ผิวดินที่ระยะประมาณ 800 เมตร จากแยกลาดปลาเค้าเชื่อมต่อกับระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 ที่บริเวณแยกสุคนธสวัสดิ์ โดยรูปแบบโครงสร้างทางยกระดับเป็นคานคอนกรีตอัดแรงรูปกล่องแบบชิ้นส่วนสำเร็จรูป ขนาด 2 ช่องจราจร ความลึก 2 เมตร และความกว้างรวม 11 เมตร รูปแบบเสาตอม่อมีทั้งเสาเดี่ยวและเสาคู่ ระยะทาง 2.49 กิโลเมตร
โครงการนี้ยังต้องผ่านการพิจารณาจากอีกหลายหน่วยงาน และต้องเสนอให้กระทรวงคมนาคม รวมทั้ง ครม. เป็นผู้พิจารณาตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม โครงการนี้จะช่วยแก้ไขปัญหาจราจร และช่วยให้ประชาชนมีทางเลือกในการเดินทางมากขึ้น รวมถึงช่วยลดระยะเวลาการเดินทางเชื่อมโยงจากฝั่งตะวันออกและตะวันตกได้ประมาณ 30 นาที ซึ่งโครงการนี้มีการผลักดันมา 25 ปีแล้ว
ทั้งนี้ตามแผนต้องผ่านขั้นตอน รายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม การเวนคืนที่ดินและขออนุมัติก่อสร้างโครงการ ตามแผนที่กำหนดไว้ คาดว่าจะเริ่มสร้างในปี 2569-2574
ที่มา mgronline ,matichon , Mono News ,thansettakij , thelist.group