เหตุผลที่ต้องมีสะพานเชื่อมเกาะ
ปัจจุบันการเดินทางมายังเกาะสมุยมีเพียง 2 รูปแบบการเดินทาง คือ ทางอากาศและทางน้ำ ซึ่งมีข้อจำกัดด้านปริมาณและจำนวนเที่ยวในการให้บริการ จึงส่งผลกระทบต่อความสะดวกสบายในการเดินทาง และกระทบต่อภาคธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของเกาะสมุย โดยปัจจุบันเกาะสมุยมีประชากรประมาณ 69,000 คน และมีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 2.6 ล้านคนต่อปี ซึ่งพื้นที่ 1 ใน 3 ของเกาะเป็นที่ราบรอบล้อมไปด้วยภูเขา
นอกจากนี้ หากเกิดเหตุฉุกเฉินที่มีความจำเป็นต้องเดินทางจากเกาะสมุยมายังจ.สุราษฎร์ธานี หรือ จ.นครศรีธรรมราช จะไม่สามารถเดินทางได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงหน้ามรสุมที่ไม่สามารถเดินทางด้วยเรือ ซึ่งการมีทางเชื่อมข้ามเกาะจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางได้ เช่น การเจ็บป่วย ที่ต้องการไปโรงพยาบาล เป็นต้น
โครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุย ระยะทางประมาณ 37 กิโลเมตร เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนได้รับความสะดวก ปลอดภัย
ส่งเสริมการท่องเที่ยในการเดินทางสู่เกาะสมุยได้ง่ายมากยิ่งขึ้น


เกาะสมุย เป็นเกาะที่ตั้งอยู่บริเวณอ่าวไทย ห่างจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีไปทางทิศตะวันออก เป็นระยะทาง 84 กิโลเมตร พื้นที่ 1 ใน 3 ของเกาะเป็นที่ราบรอบล้อมไปด้วยภูเขาในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคมเป็นช่วงคลื่นลมสงบ จึงเหมาะแก่การท่องเที่ยวมากที่สุด โดยเกาะสมุยเป็นเกาะที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่างขนานนามให้เกาะสมุยว่าเป็น “สวรรค์กลางอ่าวไทย” เนื่องจากเกาะสมุยมีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรการท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่น สวยงาม มีเสน่ห์แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม อาทิ น้ำทะเลใสบริสุทธิ์ หาดทรายขาวทอดขนานไปกับทิวต้นมะพร้าวริมชายหาด และนอกจากธรรมชาติชายทะเลแล้ว ยังมีน้ำตกที่น้ำใสเย็นเกือบตลอดทั้งปี มีแหล่งท่องเที่ยวที่แสดงถึงศิลปวัฒนธรรมของชาวท้องถิ่น เช่น วัดสำเร็จ วัดละไม วัดพระใหญ่ เจดีย์แหลมสอ ฯลฯ นอกจากนี้เกาะสมุยยังเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย รองจากเกาะภูเก็ต มีประชากรประมาณ 69,000 คน มีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 2.6 ล้านคนต่อปี
เกาะสมุย เป็นเมืองที่มีศักยภาพในการพัฒนาที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ “การพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้” ตามแผนยุทธศาสตร์ที่มีความสำคัญเกี่ยวข้องกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดนครศรีธรรมราช แต่ในปัจจุบันสามารถเดินทางได้เพียงทางอากาศและทางน้ำ ซึ่งมีข้อจำกัดด้านปริมาณและจำนวนเที่ยวในการให้บริการ ส่งผลกระทบต่อความสะดวกสบายในการเดินทาง และกระทบต่อภาคธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของเกาะสมุย นอกจากนี้ หากมีกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินที่ต้องเดินทางมายังจังหวัดสุราษฎร์ธานีหรือจังหวัดนครศรีธรรมราชในกรณีที่จำเป็นเร่งด่วน จะไม่สามารถเดินทางได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้ามรสุมที่ไม่สามารถเดินทางด้วยเรือได้ ดังนั้น การมีสะพานเชื่อมข้ามเกาะสมุยจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้ประชาชนได้รับความสะดวก ปลอดภัย ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายในการเดินทาง รวมทั้งช่วยส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวมากขึ้น
ที่มา isranews.org . samuibridge.com