
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา Toyota มียอดขายแซงหน้า BMW อย่างต่อเนื่องในระดับโลก เนื่องมาจากราคาที่จับต้องได้ ความน่าเชื่อถือ และกลุ่มผลิตภัณฑ์ยานยนต์ที่หลากหลาย ในขณะที่ BMW ยังคงเป็นผู้นำในด้านยานยนต์ระดับพรีเมียมและสมรรถนะสูง แต่สิ่งที่ทำให้ Toyota เป็นผู้นำที่ไม่มีใครโต้แย้งในด้านยอดขายทั่วโลก มาเจาะลึกตัวเลข กลยุทธ์ และเหตุผลเบื้องหลังความโดดเด่นของ Toyota กัน
ในปี 2014 โตโยต้าสามารถจำหน่ายรถได้ถึง 10.23 ล้านคันแซงหน้า BMW ที่มียอดขาย 2.118 ล้านคัน
ในปี 2024 Toyota ยังคงเป็นผู้นำด้วยยอดขาย 10.1 ล้านคัน ในขณะที่ BMW ทำได้ 2.45 ล้านคัน
Toyota มียอดขายทั่วโลกมากกว่า BMW เกือบสี่เท่าเหตุผลคือ Toyota มีฐานลูกค้าที่กว้างขวางกว่ามาก โดยให้บริการในระดับรายได้และตลาดที่หลากหลายทั่วโลก
กลยุทธ์การตลาดของโตโยต้า: ราคาจับต้องได้ เชื่อถือได้ และยั่งยืน
รถยนต์ราคาประหยัด – โตโยต้านำเสนอรถยนต์ราคาประหยัด เช่น Corolla, Yaris, และ Camry ทำให้เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของครอบครัวและผู้ซื้อที่ใส่ใจงบประมาณ
รถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้า – โตโยต้าเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฮบริดด้วยรถยนต์รุ่นต่างๆ เช่น Prius และ RAV4 และ Camry รุ่นไฮบริด นอกจากนี้ บริษัทกำลังขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อแข่งขันในอุตสาหกรรมรถยนต์สีเขียวที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
รถบรรทุกและ SUV – Hilux และ Land Cruiser ของ Toyota ครองตลาดรถสมบุกสมบันและรถออฟโรด ทำให้ได้รับความนิยมในภูมิภาคที่มีภูมิประเทศท้าทาย
ความน่าเชื่อถือและต้นทุนการบำรุงรักษาต่ำ – โตโยต้าได้สร้างชื่อเสียงในการผลิตยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานยาวนาน ทำให้ยานยนต์เหล่านี้น่าดึงดูดใจสำหรับเจ้าของรถระยะยาว
การผสมผสานระหว่างราคาที่เอื้อมถึง ความยั่งยืน และความน่าเชื่อถือช่วยให้โตโยต้ามีฐานที่มั่นในตลาดโลก และกลายเป็นแบรนด์ที่ผู้คนหลายล้านคนเลือกใช้
แม้ว่า BMW จะมีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมาก แต่บริษัทก็ดำเนินธุรกิจในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันมาก โดยเน้นที่รถเก๋งระดับพรีเมียม รถ SUV และรถยนต์สมรรถนะสูง เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ระดับไฮเอนด์
ยอดขายของ BMW ในปี 2024 ที่ 2.45 ล้านคัน สะท้อนให้เห็นถึงสถานะที่แข็งแกร่งของบริษัทในตลาดรถหรู แต่ปริมาณการขายรวมของบริษัทยังตามหลัง Toyota อยู่มาก
ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมันยังคงพัฒนานวัตกรรมใหม่ใน กลุ่ม ยานยนต์สมรรถนะสูง รถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์ไร้คนขับโดยแข่งขันกับแบรนด์ต่างๆ เช่น Mercedes-Benz และ Audi แม้ว่า BMW จะเข้าถึงตลาดได้จำกัด แต่สิ่งที่น่าดึงดูดใจก็คือชื่อเสียงของแบรนด์ สมรรถนะการขับขี่ และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย
กลุ่มรถยนต์หรูโดยเนื้อแท้แล้วมีขนาดเล็กกว่ากลุ่มรถยนต์ตลาดมวลชน ซึ่งอธิบายได้ว่าเหตุใดยอดขายรวมของ BMW จึงไม่สามารถเทียบเท่ากับ Toyota ได้