
จีนได้ขยายขอบเขตของนวัตกรรมเทคโนโลยีอีกครั้ง ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยถือเป็นความสำเร็จครั้งแรกของโลก ที่ประเทศจีนได้ดำเนินโครงการปูผิวถนนใหม่ โดยไม่ต้องใช้คนควบคุม แต่ใช้โดรน เครื่องปูผิวถนนอัตโนมัติ และลูกกลิ้งหุ่นยนต์ในการปรับปรุง ทางด่วนปักกิ่ง-ฮ่องกง-มาเก๊า
โครงการนี้มีระยะทางถึง 158 กม. (98.18 ไมล์) และดำเนินการโดยปราศจากการแทรกแซงของมนุษย์ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ขับเคลื่อนด้วย AI ด้วยความแม่นยำที่สูงขึ้น การรบกวนน้อยลง และความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นการพัฒนานี้จึงทำให้เกิดคำถามว่าการก่อสร้างถนนด้วยมือกำลังจะล้าสมัยหรือไม่
โครงการนี้สำเร็จได้โดยใช้ฝูงบินโดรนไร้คนขับ รถปูยางมะตอยขับเคลื่อนเอง และรถบดหุ่นยนต์ซึ่งทั้งหมดควบคุมโดยระบบ AI ส่วนกลาง
โดรนดำเนินการสำรวจอย่างแม่นยำ
- โดรนอัตโนมัติสแกนพื้นถนนที่มีอยู่และบันทึกข้อมูลความละเอียดสูงแบบเรียลไทม์
- AI วิเคราะห์รอยแตกร้าว รูปแบบการสึกหรอ และจุดอ่อนของโครงสร้างและสร้างแบบแปลนการปรับปรุงพื้นผิวใหม่ที่มีความแม่นยำถึงระดับมิลลิเมตร
เครื่องปูยางมะตอยอัตโนมัติ
- เครื่องจักรปูยางมะตอยขับเคลื่อนเองปฏิบัติตามแบบพิมพ์เขียวที่สร้างโดย AI เพื่อให้แน่ใจว่ายางมะตอยกระจายตัวสม่ำเสมอ
- เซ็นเซอร์ขั้นสูงตรวจสอบอุณหภูมิ ความสม่ำเสมอของวัสดุ และความลึกแบบเรียลไทม์ปรับเพื่อพื้นผิวที่สมบูรณ์แบบ
ลูกกลิ้งหุ่นยนต์อัดพื้นผิวให้แน่น
- ลูกกลิ้งควบคุมด้วย AI เดินตามแผ่นปูถนนเพื่อบดอัดยางมะตอยให้แน่นด้วยความสม่ำเสมอ
- เครื่องจักรทั้งหมดทำงานประสานกันเพื่อหลีกเลี่ยงการทับซ้อนและจุดอ่อนในโครงสร้างถนน
- AI จะตรวจสอบทุกด้านของกระบวนการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่การไหลของวัสดุไปจนถึงความหนาแน่นที่อัดแน่น
ระบบจะแก้ไขตัวเองแบบเรียลไทม์ขจัดข้อผิดพลาดแบบเดิมๆ ของมนุษย์ในงานซ่อมถนน
โครงการนี้ไม่เพียงแต่เป็นการจัดแสดงเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงที่เป็นรูปธรรมในด้านประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความแม่นยำอีกด้วย
แม้ว่าการลงทุนในเทคโนโลยีการก่อสร้างอัตโนมัติ ในเบื้องต้นจะค่อนข้างสูง แต่ในระยะยาวแล้ว จะประหยัดค่าแรง ค่าวัสดุเหลือใช้ และค่าบำรุงรักษาจะค่อนข้างมาก โปรเจ็กต์นี้พิสูจน์ให้เห็นว่าการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ขับเคลื่อนด้วย AI นั้นสามารถประหยัดต้นทุนได้มากกว่าในระยะยาว