Toyota Corolla ยังคงรักษาตำแหน่งของตัวเองในตลาดต่างๆ ทั่วโลก สำหรับ Toyota ได้โฟกัสไปที่ซีดานรุ่นต่อไป โดยคาดว่า Corolla เจนเนอเรชั่นที่ 13 จะเปิดตัวในปี 2026 โดยมาพร้อมกับตัวเลือกระบบส่งกำลังแบบ Plug-In Hybrid(PHEV)
ภายใต้รูปลักษณ์ที่ปรับปรุงใหม่ Corolla มีแนวโน้มว่าจะขับเคลื่อนบนแพลตฟอร์ม TNGA-C ที่เป็นวิวัฒนาการในปัจจุบัน ซึ่งใช้ร่วมกับรุ่นต่างๆ เช่น C-HR , Corolla Cross และ Prius การเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดคือการเพิ่มระบบส่งกำลังแบบปลั๊กอินไฮบริด ซึ่งจะเป็นรุ่นแรกของ Corolla และอาจมี EV เต็มรูปแบบโดยเฉพาะ
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร รุ่นใหม่ของ Toyota จะเป็นหัวใจสำคัญของกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยเครื่องยนต์ดังกล่าวสามารถผลิตกำลังได้ประมาณ 128 แรงม้า (96 กิโลวัตต์/130 PS) ในขณะที่รุ่นเทอร์โบชาร์จสามารถผลิตกำลังได้สูงถึง 178 แรงม้า (132 กิโลวัตต์/180 PS)
มีแนวโน้มว่าเครื่องยนต์รุ่นใหม่นี้จะมีทั้งในรุ่นเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) แบบดั้งเดิมและรุ่นไฮบริด (HEV) ซึ่งเราคาคว่าจะมอบความประหยัดน้ำมันเทียบเท่ากับ Prius 2024 และตัวเลือกใหม่ระบบส่งกำลังแบบ Plug-In Hybrid(PHEV)จะมีมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวเพื่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่ดีขึ้น
EV บนท้องถนน , Hybrid บนทางหลวง
อย่างไรก็ตามยังมีรายงานจากประเทศญี่ปุ่นระบุว่า Toyota จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ใหม่ ที่จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าตัวใหม่และแบตเตอรี่โซลิดสเตตเพื่อให้สามารถวิ่งได้ไกลถึง 2,100 กม. จากการเติมน้ำมันเต็ม 1 ถัง (43L)
ก่อนหน้านี้ Toyota เคยกล่าวไว้ว่าแบตเตอรี่โซลิดสเตตจะมีไว้สำหรับรุ่นเรือธงของ EV เท่านั้น แต่หาก หากรายงานข้างต้นถูกต้อง Toyota อาจกำลังวางแผนที่จะยกเว้นให้กับ PHEV เช่นกัน
ไม่ว่าในกรณีใด อย่างน้อยหวังว่าจะเห็นเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตรใหม่ในรุ่น Corolla Hybrid ทั่วไป แม้ว่า Corolla Hybrid รุ่นปัจจุบันจะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำถึง 3.9 ลิตร/100 กม. แต่ระบบใหม่นี้อาจมีค่าใกล้เคียงกับ 3.0 ลิตร/100 กม. มาก
ยังไม่มีภาพถ่ายหลุดของ Corolla ใหม่ โตโยต้ายังคงเก็บรายละเอียดไว้เป็นความลับ แต่ดูเหมือนว่าการเปิดตัวน่าจะเกิดขึ้นในปี 2026
