เยอรมนีนำร่องใช้โครงการ ScanCar รถยนต์บันทึกรถที่จอดผิดกฎหมายแทนตำรวจ
Heidelberg เป็นเมืองแรกในเยอรมนีที่จะทดสอบเทคโนโลยีใหม่ โดยใช้รถยนต์บันทึกรถที่จอดผิดกฎหมายแทนตำรวจ รถยนต์จะติดตั้งเครื่องสแกนเพื่อบันทึกการจอดรถผิดกฎหมายโดยอัตโนมัติ ในอนาคตจะมีการนำเทคโนโลยีอัจฉริยะมาใช้แทนการใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจ

กระทรวงคมนาคมเยอรมนี (BMV) ระบุว่ารถยนต์จะถูกติดตั้งกล้องบนหลังคารถเพื่อสแกนป้ายทะเบียนรถที่จอดอยู่ขณะขับผ่าน จากนั้นป้ายทะเบียนจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับฐานข้อมูล เครื่องสแกนสามารถตรวจสอบได้ว่าผู้ขับขี่ได้จ่ายค่าจอดรถสำหรับที่จอดรถแบบเสียค่าบริการหรือมีใบอนุญาตจอดรถสำหรับผู้พักอาศัยหรือไม่
นอกจากนี้ยังสามารถตรวจจับยานพาหนะที่จอดผิดกฎหมาย เช่น ยานพาหนะที่จอดบนเลนจักรยานและเลนรถประจำทาง ซึ่งสามารถตรวจสอบได้เช่นกัน

ในช่วงโครงการนำร่องจะไม่มีการออกตั่วใดๆ ให้กับผู้ใช้เพื่อเปรียบเทียบปรับ ตามข้อมูลเครื่องสแกน ข้อมูลนี้จะถูกนำไปใช้เพื่อการประเมินเทคโนโลยีและกระบวนการภายในเท่านั้น คาดว่าการประเมินโครงการครั้งแรกที่เมือง Heidelberg จะเกิดขึ้นในไตรมาสแรกของปี พ.ศ. 2569 หลังจากนั้น ทางเมืองจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะใช้เครื่องสแกนนี้อย่างถาวรหรือไม่
ประโยชน์หลักของเทคโนโลยีนี้คือประสิทธิภาพที่สามารถตรวจสอบรถยนต์ได้มากถึง 1,000 คันต่อชั่วโมง ด้วยเครื่องสแกน เมื่อเทียบกับคนเดินเท้าที่ทำได้เพียงประมาณ 50 คัน
หลังจากการทดลองเบื้องต้นที่ลานจอดรถของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพ โดยเครื่องสแกนสามารถตรวจสอบที่จอดรถทั้งหมด 1,237 แห่ง ภายในเวลา 75 นาที ตรวจพบการละเมิดที่ต้องสงสัยประมาณ 40 ครั้งในการตรวจครั้งเดียว ส่วนการลาดตระเวนเดินเท้าจะใช้เวลา 7 ชั่วโมงในการตรวจสอบจำนวนครั้งที่เท่ากัน

เครื่องสแกนจะถ่ายภาพรถที่จอด ป้ายทะเบียน ตำแหน่งและเวลาตรวจสอบ ข้อมูลจากรถที่จอดผิดกฎหมายจะถูกเก็บไว้ตลอดระยะเวลาที่ค่าปรับถูกปรับและจะถูกลบทิ้ง ข้อมูลจากรถที่จอดอย่างถูกต้องจะถูกลบออกทันที หากระบบตรวจพบคนเดินถนน ระบบจะเบลอภาพคนเดินถนนโดยอัตโนมัติ เมื่อเครื่องสแกนทำงาน เครื่องจะติดป้ายและทำเครื่องหมายไว้อย่างชัดเจน
เทคโนโลยีนี้ถูกนำมาใช้ในฝรั่งเศสและเนเธอร์แลนด์ รวมถึงประเทศอื่นๆ ผลตอบรับเป็นไปในทางบวก ยกตัวอย่างเช่น ในอัมสเตอร์ดัม ค่าใช้จ่ายในการบังคับใช้กฎระเบียบที่จอดรถลดลงครึ่งหนึ่ง นอกจากนี้ เนเธอร์แลนด์ยังรายงานว่าเทคโนโลยีนี้ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมีท่าทีต่อต้านน้อยลง
